วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

วิจัยสาระต่างประเทศป.1



ค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียน

 สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ช่วงชั้นที่ 1 ( .1 – .3 )
ชื่อผู้วิจัย        1. ครูวัชรีวรรณ   บุพสิริ

            ชื่อเรื่อง                   พัฒนาทักษะการจำคำศัพท์




1.      สภาพปัญหา

การจดจำคำศัพท์ต่างๆ ก็ถือว่าเป็นทักษะขั้นพื้นฐานที่สำคัญอีกวิธีการหนึ่ง ผู้เรียนจะสัมฤทธิผล

ทางการเรียนภาษาอังกฤษได้ก็ต่อเมื่อนักเรียนนำคำศัพท์นั้นๆ ไปใช้ในบทเรียนและชีวิตประจำวันได้ จากการสังเกตุผลที่นักเรียนไม่ประสบผลสำเร็จในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ก็เนื่องจากว่าผู้เรียนท่องศัพท์แบบนกแก้วนกขุนทอง หรือท่องเอามากๆไว้ก่อนไม่ได้คำนึงถึงว่าตัวเองจำได้หรือไม่ได้ หรือนักเรียนจำได้แค่เฉพาะเวลาท่อง หลังจากนั้นก็จะลืม ครูผู้สอนจึงควรหากลวิธีที่จะทำให้เด็กจดจำคำศัพท์ได้อย่างแม่นยำ

ดังนั้นผู้วิจัยจึงเล็งเห็นความสำคัญของคำศัพท์เป็นอย่างมาก จึงเห็นควรนำเรื่องคำศัพท์มาทำวิจัย



2.      ทางเลือกที่คาดว่าจะแก้ปัญหา

1.      แบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์

2.      เขียนตามคำบอก

3.      ครูให้นักเรียนออกมานำคำศัพท์ทีละคนก่อนเข้าสู่บทเรียน



3.      จุดประสงค์การวิจัย

1.      เพื่อให้นักเรียนจดจำคำศัพท์ต่างๆ

2.      เพื่อให้นักเรียนมีความรับผิดชอบมีความรู้คู่คุณธรรม

3.      เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ การสอนและเทคนิควิธีการสอนของครู



4.  ระยะเวลาในการดำเนินงาน

2 มิถุนายน – 30 กันยายน 2556

  5.ขั้นตอนการดำเนินงานวิจัย

1.      คิดหัวข้อการทำวิจัย

2.      เขียนเค้าโครงการทำวิจัย

3.      เตรียมคำศัพท์ทั้งหมด 20 คำ

4.      จัดเตรียมเอกสารแบบทดสอบ

5.      ปรับแผนการสอนให้สอดคล้องกับงานวิจัย

6.      เตรียมการสอนตามแผนการสอนที่ปรับเปลี่ยน

7.      ทดสอบคำศัพท์ ( Pre test )

8.      สอนโดยใช้วิธีการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ทางภาษา ใช้เทคนิคการทำแบบฝึกหัดที่หลากหลายโดยใช้สื่อภาพเพื่อส่งเสริมการทำแบบฝึกหัด

9.      ทดสอบคำศัพท์ ( Post test )

10.  รวมรวบและสรุปผลการวิจัยเพื่อนำเสนอ

 การดำเนินงานในการวิจัยในชั้นเรียน

ที่ปรึกษา           ครูวสันต์   บุพศิริ

 ประชากร

            นักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวนทั้งหมด………คน เป็นนักเรียนชายทั้งหมด ของโรงเรียนบ้านหาดแพง   ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556  เป็นกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ทดลองงานวิจัยชิ้นนี้

 เครื่องมือที่ใช้สำรวจปัญหา            ข้อสอบ Pre test และ Post test

            แบบฝึกหัดจำนวน 5 ชุด

 เกณฑ์การให้คะแนนแบบทดสอบ

            เขียนถูกต้อง                   ได้ 1 คะแนน

            เขียนผิด                         ได้ 0 คะแนน

 ผลการดำเนินงาน / ผลการแก้ปัญหาจาการนำไปปฏิบัติจริง

            ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิจัยตามขั้ขตอนน่างๆที่เตรียมไว้และนำไปใช้กับการเรียนประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน..........คน แล้วได้พบปัญหาว่ามีนักเรียน จำนวน ….…. คน ที่ไม่สามารถจดจำคำศัพท์ได้โดยพิจารณาจากการทำแบบฝึกหัด และการทดสอบคำศัพท์ปรากฏว่านักเรียนจำนวน ….… คน ดังกล่าวไม่สามารถเขียนคำศัพท์ได้เลย โดยอ้างว่าพยายามท่องแล้วแล้วแต่จำไม่ได้ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงแก้ปัญหาดังกล่าวดังนี้คือ

            ให้นักเรียนทั้งหมด…..…คน คัดคำศัพท์ที่ตนไม่สามารถจดจำคำศัพท์ได้ โดยคัดคำละ 20 ครั้ง

  สรุปผลการพัฒนา

จากผลการฝึกสรุปได้ดังนี้คือ

1.   การฝึกที่เริ่มจาการเขียนศัพท์นักเรียนรู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง เป็นแรงจูงใจอย่างหนึ่งที่จะทำให้นักเรียน       ความอยากรู้อยากจะทำ เมื่อนักเรียนทำได้ในชุดแรก ชุดต่อไปก็จะเป็นคำศัพท์เหมือนเดิมแต่เปลี่ยนแบบฝึกแบบใหม่ เมื่อนักเรียนเจอศัพท์แบบเดิมอีกก้จะทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้โดยอัตโนมัติและเริ่มคุ้นเคยกับคำศัพท์นั้นๆมากขึ้น

2.      ถ้าหากนักเรียนได้ฝึกทำในเรื่องเดิมซ้ำๆทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างถาวรและเกดความแม่นยำความคล่องแคล่วในคำศัพท์นั้นๆมาก กว่าเรียนเพียงระยะเวลาอันสั้น นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่ต้องทำต้องอยู่ในรูปแบบที่แตกต่างและ หลากหลาย

3.      ถ้านักเรียนทราบผลการทำของตนเองในแต่ละครั้ง ทำให้นักเรียนเกิดการพัฒนาครั้งต่อไปให้ดีขึ้น และเกิดการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องทำในครั้งต่อไปให้ดีขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ

4.      จากผลการฝึกทั้งหมด จำนวน 5 ชุด และผลการทดสอบหลังการฝึก จะเห็นได้ว่านักเรียนมีการพัฒนาทักษะ การจดจำคำศัพท์อย่างเห็นได้ชัดเจน แต่มีนักเรียนอยู่กลุ่มหนึ่ง ที่ผลการพัฒนายังไม่ดี คือ กลุ่มที่ 4 ดังนั้นผู้วิจัยจึงให้นักเรียนในกลุ่มนี้คัดคำศัพท์ในแบบฝึกนั้น คำละ  …. ครั้ง และเรียกให้มาท่องและอ่านให้ฟังซึ่งทำให้นักเรียนในกลุ่มนี้พัฒนาด้านคำศัพท์นั้นได้เท่าทันเพื่อนกลุ่มอื่นๆ จากภาพรวมผูวิจัยมีความรู้สึกดีใจและภูมิใจที่นักเรียนได้มีการพัฒนาคำศัพท์และสามารถจดจำคำศัพท์นั้นตลอดไป


















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น